บทความประกันรถยนต์


ความรู้ พ ร บ โดย PR OIC By Loveinsure รับสมัครตัวแทนขายประกัน พรบ ออนไลน์





ความรู้ประกันวินาศภัยเบื้องต้น โดย PR OIC 







5 เทคนิคการซื้อประกันภัยรถยนต์ ฉบับ แสนง่าย

การเลือกซื้อประกันก็เหมือนกับเราเลือกซื้อของชิ้นหนึ่งนะแหละครับ  เรามักจะดูอะไรหลายๆอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม  ความชอบ  หรือที่สำคัญเรื่องของราคาที่ซื้อมาแล้วมันจะคุ้มค่าไหม    การเลือก ซื้อประกันภัยรถยนต์ ก็คล้ายๆกัน  ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่าคนจำนวนไม่น้อยที่มีรถยนต์ใช้เป็นของตัวเอง  ซึ่งเมื่อผ่านพ้นประกันในช่วงของปีแรกที่เป็นประกันพ่วงมากับรถ  เราก็จะต้องต่อประกันเอง  ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะต่อประกันกับที่ไหนก็ได้หรือจะต่อกับที่เดิมก็ได้เหมือนกัน  แต่หลายคนก็กลุ้มใจว่าแล้วแบบนี้เราจะเลือกซื้อประกันที่จะให้ความคุ้มครองและคุ้มค่ากับเสียที่เสียไปได้อย่างไร  วันนี้ผมเองก็มีเทคนิคเล็กน้อยในการซื้อประกันภัยรถยนต์ ที่ผมศึกษามาฝากกัน  ซึ่งมีดังต่อไปนี้ เลือกและทำการเปรียบเทียบประกันรถยนต์จากทุกเจ้าในตลาด ลองคิดดูว่า หากเราต้องการเราต้องใช้ประกันภัยรถยนต์อย่างน้อย 1 ปี จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์กับที่ไหนดี เพราะในปัจจุบันบริษัทประกันภัยรถยนต์หรือโบรกเกอร์มีจำนวนมาก  จากนั้นก็ลองในบ้านเรามีมากมายหลายเจ้า มองหาไว้สัก 3-4 จากนั้นก็ดูว่า มีบริการหลังการขายดีไหม   มีศูนย์บริการทั่วถึงหรือเปล่า เลือกประเภทประกันรถยนต์ที่คุณต้องการ  อย่างแรกเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเป็นคนที่ขับรถเสี่ยงมากแค่ไหน  เพราะมักจะช่วยให้เราตัดสินใจในการเลือกประเภทของประกันภัยรถยนต์ได้  อย่างเช่นในกรณีที่เป็นรถใหม่ ก็ควรที่จะเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เนื่องจากบริษัทประกันจะคุ้มครองเกือบทุกกรณี หาความรู้เรื่องประกันรถยนต์ ในปัจจุบันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย เพราะในโลกออนไลน์มีข้อมูลเหล่านี้จำนวนมากให้เราได้ศึกษา ประเมินค่าใช้จ่ายที่คุณรับได้ […]


การทำ ประกันภัยรถยนต์ ถือว่าเป็นการบริหารเงิน จริง ๆ หรอ


ประกันภัยรถยนต์ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสียทรัพย์สินในอนาคต หลายคนอาจจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นใจให้กับตนเองเวลาที่ขับขี่อยู่บนท้องถนน โดยไม่เคยรู้เลยว่านอกจากจะสร้างความสบายใจในการขับขี่บนท้องถนนแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสียทรัพย์สินในอนาคตอีกด้วย เนื่องจากการทำประกันเท่ากับการลดปริมาณการสูญเสียทรัพย์สินจากการเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้การวางแผนการทางการเงินมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยในการทำ ประกันภัยรถยนต์ นั้น จะมีความคุ้มครองในหลายส่วน ทั้งบุคคลภายนอก และบุคคลภายในรถ อีกทั้งหากเป็นประกันภัยภาคสมัครใจ ยังให้ความคุ้มครองไปถึงทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของคู่กรณี หรือของตัวเราเอง รวมถึงการประกันตัวในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคดีความ ดังนั้นแล้ว หากเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จากที่เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เพียงผู้เดียว ก็จะมีบริษัทประกันภัย เข้ามาเป็นผู้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตัวอย่างเช่น นาย A ขับรถชนกับ นาย B ส่งผลให้ นางสาว C ที่อยู่ภายในรถของนาย B ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีค่าเสียหายทั้งสิ้น 2,000,000 บาท โดยหาก 


ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะทำอะไรดี ?

นั่นนะสิ ระหว่างรอ เจ้าหน้าที่ประกันรถมา เราควรทำอะไรดี เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ร้ายแรงมาก เนื่องจากไม่มีผู้เสียชีวิต และจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ อย่างที่รู้กันดีว่ากว่าเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะมาถึงที่เกิดเหตุนั้นก็ใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง และระหว่างนั้นเราควรทำอะไรในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาถึง พูดคุยกับคู่กรณี เพราะจริงๆ แล้วอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้น อีกทั้งในบางครั้งเราสามารถรู้ได้อยู่แล้วว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด เราอาจะพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามาจากสาเหตุอะไร หากเป็นฝ่ายผิด ก็ใช้เวลานี้ขอโทษคู่กรณี และหากคู่กรณีต้องการชื่อ และเบอร์โทรติดต่อ ก็สามารถให้ได้เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก ก็สามารถขอชื่อ และเบอร์โทรของคู่กรณีไว้ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรเซ็นสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง ถ่ายรูป ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาถึง หากเรามีอุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูป ควรที่จะถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ หากกลัวว่าจะต้องมีการเคลื่นย้ายที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการพิจารณาได้อีกทาง นอกจากนี้ หากท่านต้องการทำอย่างอื่น เช่น เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ หรือติดต่อธุระ ก็สามารถทำได้

การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์

ขับรถไปชนบ้าง ถูกชนบ้าง ควรทำตัวอย่างไรดี อุบัติเหตุมักจะนำความสูญเสียมาให้ ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือว่าทรัพย์สิน ทำให้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราควรปฏิบัติตัวอย่างไรดี เราจะต้องมีสติก่อน อย่าตื่นตกใจจนเกินกว่าเหตุ หรือคิดที่จะหนีจากสถานที่เกิดเหตุ 1.เราจะต้องมีสติก่อน อย่าตื่นตกใจจนเกินกว่าเหตุ หรือคิดที่จะหนีจากสถานที่เกิดเหตุ 2.ควรโทรหาบริษัทประกันภัยของท่านในทันที 3.หากว่ายังไม่ทราบว่าใครเป็น ฝ่ายถูก หรือผิด หรือไม่สามารถตกลงกันได้ ห้ามขยับรถโดยเด็ดขาด 4.ถ้ามีกล้องควรถ่ายรูปที่เกิดเหตุ ไว้อย่างละเอียด จากนั้นถ้าอยากขยับรถออกก็สามารถทำได้ 5.ในกรณีมีผู้บาดเจ็บ/เสียชีวิต รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง และอย่าดำเนินการตกลงค่าเสียหายใดๆ จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯจะไปถึงซึ่งจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ท่าน รวมทั้งความผิดทางอาญาด้วยเช่นกัน 6.ในกรณีที่เป็นฝ่ายถูก ให้ทำการจดทะเบียนรถ ชื่อที่อยู่ของคู่กรณี และพยาน (ถ้ามี) เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่บริษัทฯ 7.ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด ให้ชื่อที่อยู่ของท่านแก่คู่กรณี (หากมีการร้องขอ) และแยกรถเข้าไปอยู่ในบริเวณที่ไม่กีดขวางการจราจรและไม่ควรลงนามในเอกสารใดๆ ให้แก่คู่กรณี จนกว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯจะไปถึง

เคลมแห้ง VS เคลมสด พร้อมกรณีตัวอย่างแบบง่าย ๆ

เคลมแห้ง VS เคลมสด รู้หรือไม่ ว่าการเคลมนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. เคลมแห้ง และ 2.เคลมสด แล้วอะไรคือ เคลมแห้ง เคลมสด ทั้ง 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร  แจ้งทันทีที่เกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่เซอร์เวย์ เข้าตรวจสอบทันที เคลมแห้ง แจ้งหลังจากที่ผ่านเวลาเกิดเหตุมาสักพักแล้ว เหตุที่เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ เหตุที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แต่ต้องการให้รถกลับมาอยู่ในสภาพดีดังเดิม จะเห็นได้ว่า การเคลมสด คือ การเคลม หรือการเรียกร้องขณะเกิดเหตุทันที อย่างเช่น การขับรถชนกันบนท้องถนน


---------------------------------------------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------------------------------------------------